วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

มหาเทพอินเดีย : พระพรหม

ตรีมูรติ , ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู , พระพรหม , พระศิวะ , พระนารายณ์ , ศาสนา     


     พระพรหม คือพระเจ้าผู้สร้างและเป็นผู้ลิขิตทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ รวมทั้งคัมภีร์พระเวท  พระพรหม เป็น 1 ในมหาเทพสูงสุดของอินเดียที่เรียกว่า "ตรีมูรติ" ซึ่งได้แก่ พระพรหม พระนารายณ์ และพระอิศวร

การกำเนิดพระพรหมนั้นมีตำนานที่หลากหลาย มีเรื่องเล่าขานกันมาว่า..

  • ฝ่ายที่นับถือพระวิษณุ(ไวษณพนิกาย) กล่าวว่า "พระพรหมกำเนิดออกมาจากดอกบัว ที่ผุดมาจากสะดือของพระวิษณุ นั่นหมายถึงว่าพระวิษณุกำเนิดก่อนทุกสิ่ง"
  • ฝ่ายที่นับถือพระศิวะ(ไศวะนิกาย) กล่าวว่า "พระศิวะเอาพระหัตถ์ขวาลูบพระหัตถ์ซ้าย จึงบังเกิดแสงขึ้นมา พระพรหมก็เกิดออกมาจากแสงนั้น เนื่องจากพระศิวะต้องการสร้างโลกจึงให้กำเนิดพระพรหมออกมาเพื่อกิจนี้ จึงเชื่อกันว่าพระศิวะกำเนิดก่อนทุกสิ่ง"
  • ฝ่ายที่นับถือพระพรหม กลาวว่า "พระพรหมกำเนิดขึ้นมาเอง มีอยู่ตั้งแต่เริ่มต้นของโลกและจักรวาลแล้ว และได้เนรมิตสตรีเพศในยามคือ สุรัสวดี(ต่อมากลายเป็นมเหสี) และได้ร่วมกันสร้างเทพองค์อื่นๆ เช่น เทวดา มนุษย์ สัตว์ แะพืชพรรณต่างๆบนโลก

พระพรหม

เชื่อกันว่าวรรณะต่างๆของชาวอินเดีย กำเนิดมาจากส่วนต่างๆของพระพรหม ดังนี้
  • ชนชั้นพราหมณ์ เกิดจาก พระโอษฐ์
  • ชนชั้นกษัตริย์ เกิดจาก พาหา
  • ชนชั้นแพศย์ เกิดจาก พระเพลา
  • ชนชั้นศูทร เกิดจาก พระบาท


ลักษณะของพระพรหม
  • กายสีแดง
  • 4 พระพักตร์ หมายถึงพระเวททั้ง 4
  • พระกร 4 ข้าง แต่ละข้างจะถือลูกประคำ ดอกบัว คัมภีร์ และหม้อน้ำ
  • ประทับอยู่บนอาสน์บัวบาน
  • ทรงหงส์เป็นพาหนะ
พระพรหมทรงหงส์ พระพรหมธาดาทรงหงษ์     

การปรากฏของพระพรหม
  • พระพรหมในศาสนาพุทธ คือ บุคคลที่ตั้งมั่นอยู่ในพรหมวิหาร 4 ซึ่งทุกคนสามารถเป็นพรหมได้ และบนสวรรค์นั้นมีพรหมเป็นล้านๆองค์
  • พระพรหมในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู คือ ผู้ที่สร้างโลก ซึ่งมีชื่อเรียกที่หลากหลาย เช่น พระพรหมา พระพรหมธาดา ท้าวจตุรมุข ประชาบดี 
Image result for พระพรหม

Image result for พระพรหม







อ้างอิง
   Korn bu Korn. (2556). ท้าวมหาพรหม(พระพรหม) 1 ใน 3 มหาเทพสูงสุด เทพเจ้าผู้ลิขชะตาชีวิต. ค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561, จาก http://kornbykorn.blogspot.com/2013/08/blog-post.html?m=1
   Oceansmile. (2561). ตำนานเทพแห่งศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู. ค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561, จาก http://www.oceansmile.com/KHM/Tamnanthep.htm
   สยามคเนศ. (2561). พระพรหม มหาเทพผู้สร้างโลกและลิขิตชีวิตมนุษย์. ค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2561, จาก https://www.siamganesh.com/lordbrahma.html

วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Hello GUNUNGMULU

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กูนุงมูลู


สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน กลับมาพบกันอีกครั้งกับ See in SEA.


แต่ก่อนอื่นขอซ้อมคำสวัสดีเป็นภาษาเพื่อนบ้านกันซักหน่อย
Selamat  petang 🙏 (เซอลามัต ปาตัง)

เพราะวันนี้เราจะเดินทางไปกันที่ เกาะบอเนียว ประเทศมาเลยเซียยยยยยย !


จาก Blog ที่แล้วเราาได้พาเพื่อนๆไปสัมผัสกับบรรยากาศของวังเวียงประเทศลาวซึ่งมีชายแดนติดกับสุดเขตแดนอิสานของไทยเรา วันนี้เราจะไปเที่ยวประเทศที่ติดกับสุดเขตแดนใต้ของเรากันบ้างนะค้า

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ thai malaysia maps

ภาพจาก : https://www.caingram.info/Thailand/Pic-htm/se_asia_map.htm

พรมแดนมาเลเซีย-ไทย มีทั้งชายแดนระหว่างประเทศทั้งบนบกผ่านคาบสมุทรมลาติดกับ

จังหวัดสตูล จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา และนราธิวาส ของไทยเรา ซึ่งเราสามารถนั่งรถโดยสารจาก
อ.หาดใหญ่ จ.สงขลามาลงที่มาเลเซียได้ด้วยเวลาเพียง 3 ชม.เท่านั้น แต่หากใครมีเวลาเยอะหน่อยก็สามารถนั่งรถไฟสาย Butterworth กทม.-ปีนัง มาได้โดยตรงเลยจ้า

ที่สำคัญ... อย่าลืมพาสปอร์ต นะจ๊ะ!

เมื่อเพื่อนๆมาถึงมาเลเซียกันครบแล้ว เรามาเริ่มเที่ยวกันได้เลยค้าาา

อุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู มหัศจรรย์มรดกโลกอาเซียนอุษาคเนย์ 👈




   หากพูดถึงแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในประเทศมาเลเซีย ยังไงก็ต้องมีชื่อสถานที่นี้มาเป็นอันดับต้นๆแน่นอนก็เพราะว่า อุทธยานแห่งชาติ กุนงมูลู นั้นเป็น 1 ใน 4 สถานที่ที่เป็นมรดกโลกของประเทศมาเลเซีย
 
อุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู (Gunung Mulu National Park) 

เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ในบนเกาะบอร์เนียว รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซีย เกาะบอร์เนียว เป็นที่รู้จักกันในชื่อ บูมีเกอญาลัง (Bumi kenyalang) หรือ "ดินแดนแห่งนกเงือก" มีชื่อเสียงในด้านธรณีวิทยาเพราะว่ามีพืขพันธุ์กว่า 3,500 ชนิด และภูมิประเทศแบบคาสต์ (Karst topography) คือมีหินปูนสูงๆ ต่ำๆ มีหน้าผา สูง ยอดแหลม ตะปุ่มตะป่ำ มีรอยแตกกว้าง  มีพื้นที่ทั้งหมด 754 ตร. กม.


ภาพจาก :https://travel.thaiza.com/foreign/306142/

     นอกจากที่นี้จะเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธุ์พืชแล้ว ยังมีไฮไลท์อีกหนึุ่งอย่างนั้นก็คือ ถ้ำ  ค่ะ
อุทยานแห่งชาติแห่งนี้เป็นที่ตั้งของหนึ่งในเครือข่ายถ้ำที่ยาวที่สุดในโลกหรือที่เรียกกันว่า
"ถ้ำซาราวักแชมเบอร์" ถ้ำดังกล่าวเป็นถ้ำใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในโลก (โดยสามารถจุุเครื่องบินโบอิ้ง 747 ได้ถึง 40 ลำ) 😮😮😮


ภาพจาก: http://gothailandgoasean.tourismthailand.org/th/%E0%B9%84%E0%

        ยังไม่หมดเท่านั้นนะคะ เมื่อเราเดินเข้าไปแล้วเราจะได้พบกับทางเดินถ้ำที่กว้างใหญ่โอ้โถง
ที่มีชื่อเรียกว่า "เดียร์เคฟ" (Deer Cave) ซึ่งขนาดใหญ่เท่ากับโบสถ์เซนต์ปอลถึงห้าหลังเลยทีเดียว
อุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู ถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะการเดินป่าในเขตอุทยานนั้นค่อนข้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 


อุทยานแห่งชาติกูนุงมูลู
ภาพจาก : http://www.uasean.com/kerobow01/274

สำหรับการไปท่องเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆในพื้นที่อุทยาน สามารถติดต่อขอซื้อ package 
ท่องเที่ยวรูปแบบต่างๆที่ทางอุทธยานได้เตรียมไว้ ซึ่งมีให้เลือกอย่างหลากหลาย เช่น กิจกรรมการเดินป่า กิจกรรมสำรวจถ้ำ กิจกรรมเดินสำรวจป่าในยามค่ำคืน แน่นอนว่ามีไกด์ผู้ชำนาญทางเตรียมไว้บริการทุกท่าน พร้อมกับที่พักและอาหารแต่ละมื้อไว้คอยบริการอย่างครบครัน

จากที่นำภาพมาให้ชม ใครสนใจไปเที่ยวพักผ่อนไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย
อย่าลืมนึกถึง อุทธยานแห่งชาติกูนูมูลู แห่งเกาะบอเนียว ด้วยนะค้าาา 





อ้างอิง
เคโร่.(2561). อุทยานแห่งชาติกูนุงมูลู. ค้นเมื่อ 22/10/2561. จาก http://www.uasean.com/kerobow01/274
มาเลเซียทราเวล.(2561). อุทยานแห่งชาติกูนุงมูลู(Gunung Mulu National Park). ค้นเมื่อ 22/1/2561. จาก http://www.malaysia.travel/th-th/th/places/states-of-malaysia/sarawak/gunung-mulu-national-park
อาเซียนโน๊ต.(2561). มรกดโลกในมาเลเซีย 4 : อุทยานแห่งชาติกูนุงมูลู. ค้นเมื่อ 22/10/2561. จาก https://aseannotes.blogspot.com/2014/08/4_10.html
ทราเวลไทยซ่า. (2558). อุทยานแห่งชาติกุนุงมูลู มหัศจรยย์มรดกโลดอาเซียนอุษาคเนย์. ค้นเมื่อ 22/10/2561. จาก https://travel.thaiza.com/foreign/306142/


วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Hello Vang Vieng

 ສະບາຍດີ ~ 👩🙏

เราจะพาทุกคนหนีไปเที่ยวต่างประเทศกันค่ะ !
แต่เปิดฉากทักทายกันแบบนี้ คงเดากันออกแล้วใช่ไหมคะว่า Blog นี้เราจะพากันไปที่ไหน ?!
(ไหนๆลองทายกันซิ ว่าภาพนี้คือไหนกันน้าา ~ )


                                               ภาพจาก Worrarat

ถูกต้องนะค้าาา~
วันนี้เราจะไปเยี่ยมชมประเทศเพื่อนบ้าน อีกหนึ่งสมาชิกในกลุ่มอาเซียน 

นั่นก็คือ....  "ประเทศลาว" นั่นเองจ้าาาา


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ laos map
ภาพจาก : https://overland.org.au/previous-issues/issue-216/feature-andrew-nette/

    

แต่ก่อนที่เราจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวเลยนั่น มาทำความรู้จักกับประเทศของเขาคร่าวๆกันซะหน่อยดีกว่า ...


     👉 ประเทศลาว หรือมีชื่อทางการว่า “สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว”👈 

 

  • ป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ ไม่มีทางออกสู่ทะเล 
  • เชื่อมต่อกับประเทศไทยทางทิศตะวันตก 
  • พื้นที่ 236,800 ตารางกิโลเมตร (ซึงมีขนาดเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของประเทศไทยเท่านั้น)
  • มี 17 แขวง แบ่งเป็น 3 ภูมิภาค (ลาวเหนือ/ลาวกลาง/ลาวใต้) 
  • เมืองหลวงมีชื่อว่า นครหลวงเวียงจันทน์ 
  • ประชากร 6.8 ล้านคน
  • อากาศเฉลี่ยนสะสม 15-30 องศาเซลเซียสต่อปี
  • ค่าเงิน กีบลาว (LAK) เปรียบเทียบ 1 บาท = 259.39 กีบ
  • ภูมิอากาศอยู่ในเขตร้อนแต่ไม่มีลมมรสุม และเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

เที่ยวได้ตลอดทั้งปี !

      สำหรับช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ มีสถานที่เที่ยวในประเทศลาวที่ได้รับความนิยมและถูกพูดถึงมากในช่วงปีที่ผ่านมา รีวิวจากนักท่องเที่ยวนับพัน และเราก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้ไปสัมผัสมา วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวที่นั่นกันค่ะ

 ที่ที่เราจะพาไปกำเงินไทยแค่ 4,000 ก็ได้จับเงินเป็นล้าน(กีบ) กันเลยทีเดียว อู้วววว...

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ล้านกีบ
ภาพจาก : http://www.mairoopainai.com/guides

แต่... (แต่อีกแล้ว) ก่อนที่เราจะออกเดินทาง เช็คของจำเป็นให้พร้อมก่อน
เพราะสถานที่ที่เราจะไปนั่น จะต้องใช้ "พาสปอร์ต" ใครไม่มีก็คืออดไปนะจ๊ะ

และเมื่อพร้อมกันแล้ว
ยินดีต้อนรับสู่...

                                                           ภาพจาก : Notthakod

วังเวียง (Vang Vieng) 

    สถานที่ที่ได้รับสมยานามว่า กุ้ยหลินแห่งเมืองลาว อยู่ห่างจากตัวเมืองเวียงจันทน์ ประมาณ 150 กิโลเมตร อยู่ติดริมแม่น้ำซอง ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ และใครที่รักการ Adventure บอกเลยว่า ห้ามพลาด!  เนื่องจากที่นี่มีแม่น้ำซองไหลผ่านตัวเมือง กิจกรรมจึงเป็นแนวกึ่งผจญภัย ผสมผสานกับการเรียนรู้วัฒนธรรมของชุมชนริมแม่น้ำ ซึ่งก็เรียกความสนใจจากชาวต่างชาติได้ไม่น้อยเลยทีเดียว จากการสำรวจครั้งล่าสุดในปีพ.ศ. 2555 ของเขตพื้นที่วังเวียงกล่าวว่า มีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวที่นี่กว่า 132,500 คนในปีดังกล่าว และมีแนวโน้มมากขึ้นทุกปี โดยพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เงียบสงบแต่กิจกรรมครบครัน !

...เกริ่นกันมาซะขนาดนี้แล้ว เราไปชมกันเลยดีกว่าค่ะว่ากิจกรรมที่นี่เขามีอะไรกันบ้าง


กิจกรรม : ล่องห่วงยางแม่น้ำซอง 

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กิจกรรมที่วังเวียง
ภาพจาก : https://sites.google.com/site/pratheslw/

กิจกรรม : พายเรือคายัค

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กิจกรรมที่วังเวียง
ภาพจากhttps://www.klook.com/th/activity/7354-vang-vieng-adventure-vang-vieng/

กิจกรรม : กระโดดน้ำที่บลูลากูน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ กิจกรรมที่วังเวียง
ภาพจาก : https://travel.mthai.com/blog/132857.html

กิจกรรม : ขึ้นบอลลูนชมเมือง


ภาพจาก : https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=tamfon&month=27-04-2016&group=2&gblog=1

กิจกรรม : ปีนผาเงิน

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ภาพจาก : https://www.fwd.co.th/th/live/articles/all/vangvieng/

กิจกรรม : ห่วงยางลอดถ้ำ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ห่วงยางลอดถ้ำ วังเวียง
ภาพจาก : https://th.readme.me/p/8220

กิจกรรมข้างบนนี้เป็นเพียงแค่กิจกรรมลำดับต้นๆทีไ่ด้รับความนิยมเท่านั้น แน่นอนว่าเราก็ได้ลองทำทุกกิจกรรมเป็นที่เรียบร้อยและขอคอนเฟิร์มว่า สนุกและคุ้มค่าจริงๆค่ะ เราอยากให้ทุกคนมาสัมผัสด้วยตัวเองดูสักครั้งนะคะ

แต่สำหรับเพื่อนๆที่ไม่ชอบการละเล่นที่ผาดโผน ทำนองว่าเป็นสายกิน สายถ่ายรูป
บอกเลยนะว่า วังเวียง ก็ไม่แพ้ที่ไหนในโลกนี้เหมือนกัน ! 

ต่อไปเราตามมาดู Landmark ที่พูดได้เลยว่า ไม่มานะเรียกว่ามาไม่ถึงวังเวียง

ถ้ำจัง 
: ถ้ำที่มีชื่อเสียงและใหญ่ที่สุด อยู่บนเขาลสดชันที่ต้องเดินขึ้นบันไดถึง 147 ขั้น เห็นวิวทั้งเมืองของวังเวียงได้สุดลูกหูลูกตา ภายในจะมีความสวยงามของหินงอกหินย้อยให้ได้ชมตลอดทาง 
Tham Jung
ภาพจาก : http://www.thaiticketmajor.com/variety/travel/4148/

สะพานส้ม 
: เป็นสะพานทางเข้าที่ถอดยาวไปสู่ ถ้ำจังค่ะ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ถ้ำจัง
ภาพจาก : http://www.thaiticketmajor.com/variety/travel/4148/

ริมแม่น้ำซอง
เต็มไปด้วยร้านอาหารติดแม่น้ำ นั่งแช่เท้าสบายๆแถมได้รูปบรรยากาศพักผ่อนอีกด้วยนะคะ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ถ่ายรูปที่วังเวียง
ภาพจาก : https://medium.com/@22maylife/first-time-in-vang-vieng-3edf8ec68b1b

ทุ่งนาในเขตที่พักรีสอร์ตเวียงธาราวิลล่า
รีสอร์ตที่มีสะพานไม้ทอดยาวไปยังกระต็อบหลังเล็ก มีวิวห้อมล้อมเป็นภูเขา ทางที่พักได้เปิดให้ทุกคนเข้าไปเยี่ยมชมถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัยเลยจ้า

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วังเวียง
ภาพจาก : https://th.readme.me/p/5721

จบกันไปแล้วนะคะกับกิจกรรมและสถานที่ถ่ายรูปชิคๆของเรา่ แต่การพาเที่ยวจะจบลงไม่ได้เลยถ้าเราไม่พูดถึงของกิน ถ้าพูดถึง ข้าวจี่ ทุกคนก็คงจะนึกถึงข้าวจี่ตามตลาดนัดใช่ไหมคะ แต่ภาพที่ทุกท่านจะได้เห็นจากนี้ก็คือออออ....

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ภาพจากhttps://today.line.me/th/pc/

ข้าวจี่วังเวียง นั่นเองจ้าาา หรือมีอีกชื่อว่า ปาเต๊ะ ขอคอนเฟิร์มถึงความอร่อยลงตัวจริงๆ
ถ้าใครมาบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยค่ะ

ก่อนจากกันวันนี้ขอฝากทิ้งท้ายไว้ว่า ถึงแม้วังเวียงจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังดำเนินชีวิตกันตามปกติ เพราะฉะนั้นใครจะไปเที่ยวก็ขอให้ปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ของสถานที่นั้นๆกันด้วยนะค้าาา

"ธรรมชาติที่สวยงามจะอยู่กับเราไปได้นาน ถ้าเราช่วยกันดูแลรักษา"





อ้างอิง
หลวงพระบาง.(2561). โอ้วังเวียง..ดังเวียงสวรรค์. ค้นเมื่อ 9 ตุลาคม 2561, จาก http://www.louangprabang.net/LPBDetail.asp?ID=783
วิกิพีเดีย.(2561). ประเทศลาว. ค้นเมื่อ 9 ตลาคม 2561, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศลาว



วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2561

Hello Phanom Rung




     สวัสดีค่ะเพื่อนๆทุกคน กลับมาอีกแล้วกับการเขียนบล็อควันนี้นะคะ ในบล็อคที่แล้วเราพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่วัดภูก้อน จังหวัดอุดรธานีกันแล้ว และในบล็อคนี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวชมโบราณสถานที่สำคัญของเมืองไทยอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือ "ปราสาทหินพนมรุ้ง" นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นปราสาทที่ตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,320 ฟุต นับได้ว่าสูงมากๆเลยทีเดียว จึงได้รับการขนานนามว่าเปรียบเสมือนเทวาลัยบนเขาไกรลาศ ที่เป็นที่ประทับของพระศิวะ และเรื่องราวของพนมรุ้งจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยค่ะ :D

ปราสาทรเขาพนมรุ้งIDSC 0827.jpg


ที่มาของปราสาทหินพนมรุ้ง


ปราสาทหินพนมรุ้งงานอังคาร

          ปราสาทหินพนมรุ้ง ตั้งอยู่บนยอดเขาพนมรุ้ง ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ชื่อพนมรุ้ง มาจากภาษาเขมร วนํ รุง แปลว่า ภูเขาอันกว้างใหญ่ ปัจจุบันตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลตาเป๊ก อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์
          ปราสาทหินพนมรุ้งแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่ประทับของพระศิวะ(เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย) และยังเป็นที่ประกอบพิธีกรรมต่างๆทางศาสนาฮินดู  จากหลักฐานที่ปรากฎในศิลาจารึกพบว่า ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 15 แต่ไม่ได้ปรากฏว่าปราสาทหลังใหญ่(ปราสาทประธาน)ถูกสร้างมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งในการสร้างปราสาทให้ขึ้นเป็นเทวสถานสมบูรณ์นั้นน่าจะอยู่ในช่วงสมัยของนเรนทราทิตย์ ที่เป็นต้นราชวงศ์และเป็นผู้ครอบครองดินแดนพนมรุ้งมาแต่เดิม อีกทั้งยังได้รับการยอมรับแล้วถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองเมือง จากนั้นก็ได้ดำเนินการสร้างปราสาทหินหลังนี้ต่อ

ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์

          ในช่วงราวพุทธศตวรรษที่ 18 หลังจากที่นเรนทราทิตย์ได้สิ้นชีพลงไปนั้น ก็ยังได้รับการยกย่องให้เป็นสมมุติเทพ เพราะเชื่อว่าได้บรรลุโมกษธรรมและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับองค์พระศิวะ ต่อมาในช่วงสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7ลัทธิไศวนิกายก็ได้เสื่อมสลายจากดินแดนแถบนี้ เนื่องจากพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้หันมานับถือศาสนาพุทธ นิกายมหายาน และเทวสถานแห่งนี้ก็ถูกดัดแปลงเป็นวัดนิกายมหายาน

สถาปัตยกรรม



ปราสาทพนมรุ้ง


          ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นศิลปะขอมโบราณ เน้นความสำคัญของส่วนประกอบเข้าหาจุดศูนย์กลาง มีการแกะสลักหน้าบันและทับหลังที่ปราณีต ละเอียดอ่อน ลวดลายชัดเจน งดงาม ว่าด้วยเรื่องราวในศาสนาฮินดู เช่น ทับหลังรูปแกะสลักพระนารายณ์บรรทมสินธุ์(ในปัจจุบันได้ถูกขโมยไปแล้ว)



ปราสาทหินพนมรุ้ง บุรีรัมย์

          สะพานนาคราช  เป็นทางเดินเข้าสู่ตัวปราสาท ข้างทางทั้งสองฝั่งมีเสานางเรียงจำนวน 35 ต้นเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ราวสะพานเป็นลำตัวพญานาค 5 เศียร กึ่งกลางสะพานมีภาพจำหลักรูปดอกบัวแปดกลีบหมายถึงเทพประจำทิศทั้ง 8 สะพานชั้นที่ 1 มีบันได 52 ขั้นที่ขึ้นไปสู่ลานบนยอดเขาแล้วเจอซุ้มประตูระเบียงคตทางทิศตะวันออก หน้าบันสลักรูปฤๅษีที่หมายถึงศิวะรักษาโรคภัยไข้เจ็บ หรือหมายถึงนเรนทราทิตย์ที่เป็นผู้ก่อตั้งปราสาทแห่งนี้ สะพานชั้นที่ 2 ระเบียงคตเป็นห้องยาวแต่ไม่สามารถเดินทะลุถึงกันได้ ด้านขวาของบันไดมีอาคารที่เรียกว่า พลับพลาเปลื้องเครื่อง ซึ่งเป็นที่พักจัดเตรียมองค์ของพระมหากษัตริย์ก่อนเข้าสักการะหรือเข้าประกอบพิธีกรรมต่างๆ




          ตัวปราสาทประธาน ตั้งอยู่ศูนย์กลางของปราสาทชั้นใน ก่อด้วยหินทรายสีชมพู เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมกว้าง ภายในเรือนธาตุตรงกึ่งกลางมีห้องที่เรียกว่าห้องครรภคฤหะ เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพที่สำคัญที่สุด คือศิวลึงค์ แต่ในปัจจุบันได้หายไปแล้ว เหลือแต่เพียงท่อโสมสูตร คือร่องน้ำมนต์ที่ใช้รับน้ำสรงจากการสักการะศิวลึงค์

ปราสาทพนมรุ้ง

          ในทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือและทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีอาคารสองหลังที่ก่อด้วยหินศิลาแลง นั่นคือบรรณาลัย หรือคนปัจจุบันเรียกว่าห้องสมุด ซึ่งใช้เป็นที่เก็บคัมภีร์ทางศาสนา นอกจากตัวปราสาทประธานแล้ว ยังมีปราสาทอิฐสององค์และปรางค์น้อยรายล้อมอยู่ในบริเวณนี้อีกด้วย

ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ขึ้นส่องแสงลอดประตูทั้ง 15 บาน



          ในช่วง 3-5 เมษายน และ 8-10 กันยายน ของทุกปี ดวงอาทิตย์จะขึ้นและส่องแสงลอดผ่านประตูทั้ง 15 บานพร้อมกันทางทิศตะวันออก และยังรอชมดวงอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตกได้อีกในช่วง 6-8 มีนาคม และ 6-8 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งมีความเชื่อกันว่า ดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงผ่านศิวลึงค์ จะเป็นการเพิ่มพลังในการดำเนินชีวิตต่อไปของเราได้  ในสมัยก่อนสถาปนิกชาวขอมโบราณมีความรอบรู้ทางด้านดาราศาสตร์มาก สามารถวางผังปราสาทให้ตรงตามทิศตะวันออก-ตกได้ จนในวันขึ้น 15 ทำให้เรามองเห็นพระอาทิตย์ส่องแสงผ่านประตูได้ตรบทุกบานได้

ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

          ภายหลังนี้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ เป็นการช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศดีขึ้น จึงมีการจัดกิจกรรม "งานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง" ชมมหัศจรรย์การขึ้นและตกของพระอาทิตย์และยังมีกิจกรรมอีกมากมาย เช่น การรำบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนเขาพนมรุ้ง และยังมีจัดสินค้าท้องถิ่นให้ชมและเลือกซื้อกันอีกมากมาย

ภาพจาก https://siamrath.co.th/n/12710

     ปราสาทหินพนมรุ้งเป็นแหล่งโบราณสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทยที่มีนักเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยี่ยมชมกันมากมาย เพราะมีความสวยงามทั้งด้านสถาปัตยกรรม มีการแกะสลักที่มีความงดงาม ลวดลายปราณีตอ่อนช้อย เล่าขานถึงเรื่องราวของคนในสมัยก่อนได้อย่างน่าหลงไหล หากเพื่อนๆคนไหนมีโอกาสอยากให้ลองได้ไปเห็นของจริงว่าจะสวยงามขนาดไหน สำหรับบล็อคในวันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะคะ ในบล็อคหน้าจะพาเที่ยวที่ไหนอย่าลืมติดตามกันด้วยนะค้าา ^__^



-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-_-




อ้างอิง
     กระทรวงวัฒนธรรม. (2558). อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์. ค้นเมื่อ 22 กันยายน 2561, จาก https://www.m-culture.go.th/young/ewt_news.php?nid=467&filename=index
     ไปด้วยกัน.คอม (2561). เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม. ค้นเมื่อ 22 กันยายน 2561, จาก https://www.paiduaykan.com/province/Northeast/buriram/phanomrung.html
     sanook.com. (2561). ชวนเที่ยงมหัศจรรย์ปราสาทพนมรุ้ง ชมดวงอาทิตย์ลอด 15ช่องประตู.ค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561,จาก https://www.sanook.com/travel/1394897/
     Loychun. (2561). อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง. ค้นเมื่อ 23 กันยายน 2561, จาก https://th.m.wikipedia.org/wiki/อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง



วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2561

Hello PhuKon





     สวัสดีเพื่อนๆทุกคนค่ะ กลับมาเจอกันอีกรอบในการเขียนบล็อคที่ 2 ของเรานะคะ  ในบล็อคที่แล้วเราพาเพื่อนๆไปท่องเที่ยวที่ปราสาทบันทายศรี ประเทศกัมพูชา เป็นโบราณสถานที่สำคัญและสวยงามแห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา  และในวันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปเที่ยวที่ 'วัดป่าภูก้อน' ซึ่งอยู่ในประเทศไทยของเราเองค่ะ จะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ ^__^


   

   'วัดป่าภูก้อน' หรือถูกขนานนามว่า 'พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติภูก้อน' ตั้งอยู่ที่บ้านนาคำ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ตามแนวรอยต่อของจังหวัดอุดรธานี เลย และหนองคาย มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 3,000 ไร่ โดยจุดประสงค์หลักที่สร้างวัดคือต้องการปลูกป่าทดแทนเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรมกว่า 750 ไร่ ตามดำริชอบของพุทธบริษัทสี่ วัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ.2530  โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย  ศาสนสถานแห่งนี้มีศาลาอุโบสถ 1 หลัง 2 ชั้น มีกุฏิพระ 45 หลัง เรือนครัว 1 หลัง เรือนพักฆราวาส 6 หลัง และยังมีห้องน้ำอีกจำนวนมาก 




     วัดป่าภูก้อนแห่งนี้มีความสง่างามและมีความสงบเป็นที่สุด ซึ่งเหมาะแก่การบำเพ็ญภาวนารักษากายวาจาและจิตใจ อีกทั้งยังมีความสวยงามทั้งภายนอกที่ดูกว้างขวางและยังอยู่บนที่สูงทำให้มีอากาศที่ปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่ว่าจะฤดูร้อนหรือฤดูหนาวก็ยังมีอากาศที่ดีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งพระวิหารแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์  หรือจะเป็นความสวยงามที่อยู่ภายใน มีสถาปัตยกรรมที่น่าหลงไหล เช่น องค์พระพุทธรูปที่สร้างด้วยหินอ่อน หรือการเล่าพุทธประวัติภายในวิหาร เป็นต้น

     จุดเด่นของวัดป่าภูก้อนแห่งนี้อยู่ที่ 'พระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนี' ปางปรินิพพาน ที่สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวซึ่งมีความทนทานที่สุด มีความยาวทั้งหมด 20 เมตร เนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ พระพุทธไสยาสน์นี้จุงเป็นสัญลักษณ์แทนรัชกาลที่ 9  อีกทั้งยังถูกสร้างขึ้นมาด้วยจิตศรัทธาของญาติโยมทั้งหลายด้วย


พาไปชมวัดป่าภูก้อน วัดป่าแห่งการวิปัสสนา


     'วัด' เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์ส่วนมากถือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ไม่ว่าจะทุกข์หรือจะสุข มนุษย์ก็เลือกที่จะเข้าวัด  เข้าไปสงบจิตสงบใจ หรือเข้าไปเพื่อสร้างบุญสร้างกุศลให้กับตนเองและคนรอบข้าง  วัดป่าภูก้อน เป็นอีกสถานที่หนึ่งเมื่อใครได้เข้าไปแล้วจะรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา และที่สำคัญยังรู้สึกสงบทั้งกาย วาจา และใจอีกด้วย  
หากเพื่อนๆคนไหนมีประสบการณ์การเที่ยวชมสถานที่สวยๆสามารถนำมาแชร์กันได้ และสามารถติชมการเขียนบล็อคนี้ได้นะคะ ;)  บล็อคต่อไปจะพาเพื่อนๆไปท่องเที่ยวที่ไหนอย่าลืมติดตามกันนะคะ



อ้างอิง

   วัดป่าภูก้อน. (2552). ประวัติวัดป่าภูก้อน. ค้นเมื่อ 9 กันยายน 2561, จาก https://www.watpaphukon.org/history/   
   ไทยรัฐ. (2561). ปาฏิหาริย์...พุทธไสยาสน์ฯ อิทธิฤทธิ์สำแดง...ข้ามทวีป. ค้นเมื่อ 9 กันยายน 2561, จาก https://www.thairath.co.th/content/410045
   กะปุก. (2561). วัดป่าภูก้อน อุดรธานี วัดป่าแห่งการวิปัสสนา. ค้นเมื่อ 9 กันยายน 2561, จาก https://travel.kapook.com/view123291.html

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Hello Banteay srei.

     สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้ได้ฤกษ์งามยามดีกันแล้วที่เราจะได้มาเริ่มเข้าสู่การท่องเที่ยวแบบจริงจัง ในวันนี้จะเริ่มพาเพื่อนๆไปท่องเที่ยวที่ "ปราสาทบันทายศรี" เป็นสถานที่แรกกันค่ะ ^_^


ภาพโดย : http://www.grandavatan.com/ปราสาทบันทายสรี-74.html

     เรามาทำความรู้จักประวัติคร่าวๆของปราสาทบันทายศรีกันก่อนนะคะ 
ปราสาทบันทายศรีตั้งอยู่ที่เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา สร้างในสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 สร้างในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 16 และสร้างโดยขุนนาง ปราสาทบันทายศรีเป็นเทวสถาน สร้างขึ้นมาเพื่อถวายแด่พระศิวะ ซึ่งใช้พระนามว่า 'ตรีภูวนมเหศวร' และยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของราษฎรอีกด้วย

     ภาพโดย : วรรัชต์ โพนะทา
   

     ปราสาทบันทายศรีเป็นปราสาทหินที่เรียกได้ว่างดงามที่สุดในประเทศกัมพูชา หรือหลายๆท่านอาจรู้จักในชื่อ 'หินสีชมพู' ซึ่งเป็นหิน 3 ชนิดรวมกันได้แก่ หินทราย หินศิลาแลง และหินตัด เมื่อนำมารวมกันทำให้กลายเป็นสีชมพูที่ดูสวยงามน่าหลงไหล แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปทำให้หินที่มีชมพูนั้นจางลง  ตัวปราสาทนั้นเป็นศิลปะแบบขอม เป็นการสลักที่ละเอียด มีลวดลายที่ชัดเจนอ่อนช้อย เส้นการแกะสลักคมชัด จุดเด่นอยู่ที่หน้าบันที่มีการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ เช่น การร่ายรำของพระศิวะ


     ภาพโดย : วรรัชต์ โพนะทา
   
     จากประสบการณ์ที่ได้ไปชมปราสาทบันทายศรีมาแล้ว รู้สึกหลงไหลในลวดลายที่ละเอียดอ่อน และคมชัดของการแกะสลักตัวปราสาท ทำให้เราอยากจะศึกษาหาข้อมูลรูปแกะสลักที่หน้าบันแต่ละที่กันเลยค่ะ ส่วนการเดินทางไปเข้าชมนั้นไม่ยาก สามารถเสิชหาทัวร์และติดต่อพาเราเข้าไปได้เลยค่ะ


 ภาพโดย : วรรัชต์ โพนะทา
   

     สุดท้ายนี้อยากฝากให้เพื่อนๆลองเปิดใจเที่ยวแบบโบราณๆกันบ้างนะคะ นอกจากจะได้ชมสิ่งสวยงามที่หาชมได้ยากแล้ว ยังได้ความรู้อีกด้วย ฝากบล็อคนี้และฝากติดตามบล็อคต่อไปกันด้วยนะคะ ^^







บรรณานุกรม

โอเชี่ยนสไมล์. (2561). ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศกัมพูชา : ปราสาทบันทายศรี. ค้นเมื่อ 26 สิงหาคม 2561, จาก http://www.oceansmile.com/KHM/Buntaysari.htm
วิกิพีเดีย. (2559). ปราสาทบันทายศรี. ค้นเมื่อ 26 สิงหาคม 2561, จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ปราสาทบันทายศรี
เชษฐ์ ติงสัญชลี. (2561). ปราสาทประธานของปราสาทบัทายสรี. ค้นเมื่อ 26 สิงหาคม 2561, จาก http://www.sac.or.th/databases/seaarts/th/architectureth/กัมพูชา/item/130-ปราสาทประธานของปราสาทบันทายสรี.html
แกรนด์ อวตาร. (2561). ปราสาทบันทายสรี. ค้นเมื่อ 26 สิงหาคม 2561, จาก http://www.grandavatan.com/ปราสาทบันทายสรี-74.html

วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2561

Hello World

     สวัสดีค่ะทุกคน นี่เป็นการเขียนบล็อกแรกของเรา วันนี้จะมาแนะนำบล็อกคร่าวๆกันค่ะ ด้วยตัวเราเองกำลังศึกษาในสาขาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงได้มีความสนใจที่อยากจะเล่าและแชร์ประสบการณ์ถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ค่ะ
     ส่วนตัวเราเองเป็นคนที่ได้เดินทางบ่อยอยู่แล้ว ได้พบเจอสถานที่ใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ และสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ มันทำให้เราต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลา และรักในการเดินทางมากๆค่ะ  เราเองเคยมีประสบการณ์ที่ได้ไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาบ้าง และส่วนมากจะเป็นโบราณสถานที่มีความงดงามและน่าค้นหา ที่สำคัญคือมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สามารถไปเรียนรู้และนำมาต่อยอดในเรื่องเรียนหรือการทำงานต่างๆได้อย่างดีเลยค่ะ
     บล็อกต่อไปจะเขียนเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับสถานที่ไหนต้องรอติดตามกันนะคะ ส่วนเพื่อนๆคนไหนที่มีประสบการณ์ก็อย่าลืมมาแชร์กันนะคะ 🤗